ระทึกหนุ่มใหญ่วัย 54 ปี หลังจากขับรถตู้ส่งคนพนักงานแล้วนำมาจอดพักรถไว้ข้างสวนสาธารณะ ไม่ถึง 20 นาที รถเกิดไฟลุกไหม้ปริศนาอย่างรุนแรงจนวอดหมดทั้งคัน
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 3 กรกฎาคม 2564 ร.ต.ท.จิรายุทธ โขขุณี รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.พนัสนิคม ได้รับแจ้งว่ามีไฟไหม้รถตู้ ช่วงบริเวณหน้าสวนสาธารณะเขตเทศบาลเมืองพนัสนิคม ตำบลพนัสนิคม อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบพร้อมรถดับเพลิงกับเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลเมืองพนัสนิคม จำนวน 1 คัน และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างเหตุบ้านทุ่งเหียง
เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุช่วงบริเวณลานจอดรถหน้าทางเข้าสวนสาธารณะ พบไฟกำลังลุกไหม้รถยนต์ตู้ยี่ห้อ โตโยต้าสีบอนเงิน หมายเลขทะเบียน นข 2040 ระยอง โดยรถได้ถูกเพลิงลุกไหม้จากตัวห้องเครื่องมาจนถึงห้องผู้โดยสารอย่างแรง สร้างความตกใจแก่ประชาชนที่ขับขี่รถผ่านเป็นอย่างมาก ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลเมืองพนัสนิคม ต้องเร่งฉีดน้ำสกัด ใช้เวลากว่า 30 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้สงบลง ตรวจสอบในที่เกิดเหตุไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างได มีเพียงรถตู้ที่ถูกไฟเผาวอดเสียหายทั้งคัน
สอบถามนายสมจิตร ผสมทรัพย์ อายุ 54ปี อยู่บ้านเลขที่ 106 หมู่ 3 ตำบลหนองนาง อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นคนขับขี่รถตู้ที่ถูกไฟไหม้ เล่าว่า ตนเองได้ขับรถตู้มาจอดพักรถหลังจากขับรถรับส่งพนักงานเสร็จ แต่พอมาจอดได้แค่ไม่ถึง 20 นาที และก็ลงมานั่งพักเล่นในสวน ก้ได้ยินเสียงโวยวายว่าไฟไหม้และก็เห็นกลุ่มควันขึ้นเลยวิ่งออกมาดู ก็มาพบว่าไฟได้ลุกไหม้รถตู้ที่ตนเองขับมาจอด จึงได้รีบโทรศัพท์แจ้งขอความช่วยเหลือให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยและดับเพลิงมาช่วยเหลือแต่ก็ไม่ทันไฟก็ได้เผาไปหมดทั้งคันแล้ว ส่วนรถคันนี้ตนเองก็ได้ขอยืมเข้ามาขับรถส่งพนักงานอีกด้วย
ทางด้านนายชวนากร คุณวุฒิ กู้ภัยสว่างเหตุบ้านทุ่งเหียง เล่าว่าหลังจากที่ได้แจ้งก็ได้รีบมายังที่เกิดเหตุก็พบกลุ่มควันสีดำลอยขึ้นฟ้าและก็พบว่าไฟกำลังไหม้รถตู้อย่างแรงจึงช่วยกันนำถังดับเพลิงและน้ำเข้าไปดับแต่ไม่สามารถควบคุมเพลิงได้เลยรีบแจ้งขอรถน้ำมาทำการดับเพลิงจนสำเร็จ
เบื้องต้นจากการตรวจสอบรถตู้คันดังกล่าวไม่ได้มีการติดตั้งระบบก๊าซแต่อย่างได พบแต่เพียงสายไฟฟ้าจำนวนหลายเส้นอยู่ตรงช่วงห้องเครื่องคนขับ ซึ่งคาดว่าอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจร ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการตรวจสอบสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้อย่างละเอียดอีกครั้ง
ทีมข่าวสายเจาะ อ.พนัสนิคม |