ที่ห้องประชุมตำรวจภูธรภาค 2 พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น ที่ปรึกษา(สบ.10) พร้อมกับ พล.ต.ท.ธเนตร์ พิณเมืองงาม ผบช.ภ.2 นายพงษ์สิทธิ์ ชัยฉัตรพรสุข รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการบริหารการปราบปรามอาชญากรรมทางการเงินและความปลอดภัย ธนาคารไทยพาณิชย์ ร่วมกันแถลงข่าว การจับกุมตัว นายอนาโตลี อเล็กซานโดรวิช อายุ 35 ปี สัญชาติเบรารุส และนายเซอร์เก้ อเล็กซานโดรวิช อายุ 28 ปี สัญชาติเบรารุส ซึ่งเป็นพี่น้องกัน ในข้อหา ทำบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอมขึ้นทั้งฉบับหรือแต่ส่วนหนึ่งส่วนใดเติมหรือตัดทอนข้อความหรือแก้ไขด้วยประการใดๆในบัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่แท้จริง พร้อมของกลาง บัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม ที่ทำเลียนแบบบัตรเอทีเอ็มและบัตรเครดิต จำนวน 397 ใบ พร้อมเงินสด จำนวน 92,000 บาท
พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น ที่ปรึกษา(สบ.10) เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากมีเจ้าทุกข์จำนวนสองรายเข้าแจ้งความที่ สภ.พัทยา ว่าเงินในบัญชีได้หายไปจากบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พัทยา ได้รับการประสานจาก ธนาคารไทยพาณิชย์ว่าพบกลุ่มมิจฉาชีพลักลอบนำบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอมมาใช้กดเงินในเมืองพัทยา จึงเฝ้าติดตามพฤติกรรมจนสามารถไปจับกุมตัวได้ ขณะกำลังกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มบริเวณสถานีรถไฟบีทีเอส ปทุมวัน กทม. ซึ่งการจับกุมในครั้งนี้ถือเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวและประชาชนในการใช้จ่ายเงินผ่านบัตรเอทีเอ็มและบัตรเครดิต มิฉะนั้นจะส่งผลเสียกับการท่องเที่ยวของไทยได้
ด้าน นายพงษ์สิทธิ์ ชัยฉัตรพรสุข รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการบริหารการปราบปรามอาชญากรรมทางการเงินและความปลอดภัย ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า การจะจับกุมคนร้ายแก๊งค์สกิมเมอร์ถือเป็นเรื่องยาก อย่างเช่นแก๊งค์นี้ ซึ่งจะลักลอบก็อบปี้ข้อมูลเหยื่อจากเมืองพัทยาแต่ไปกดเงินที่อื่น จึงต้องอาศัยความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการจับกุม จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบข้อมูลที่อยู่ในบัตรประมาณ 10 ใบ แต่ถ้าหากที่มาดึงข้อมูลบัตรมาเหยื่อมาใช้ครบทุกใบจะมีมูลค่าความเสียหายหลายสิบล้านบาท
ในขณะที่ สองผู้ต้องหา รับสารภาพว่าเพิ่งเข้ามาเมืองไทยเป็นครั้งแรก และเลือกลงมือที่ประเทศไทยเป็นที่แรกด้วย