ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 แถลงข่าวผู้ต้องหาวิ่งราวทรัพย์นักท่องเที่ยวชาวจีนในเมืองพัทยา สารภาพทำมากว่า 20 ครั้ง พร้อมของกลางทรัพย์สิน นักท่องเที่ยวจำนวนมาก
|
ที่ห้องประชุมตำรวจภูธรภาค 2 พล.ต.ท.ธเนตร์ พิณเมืองงาม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 พร้อมกับ พล.ต.ต.นิติพงศ์ เนียมน้อย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ร่วมกันแถลงข่าว ผลการจับกุมตัว นายรุ่งโรจน์ สังกะสินสู่ อายุ 47 ปี ชาวจังหวัดเชียงราย ผู้ต้องหาคดีวิ่งราวทรัพย์ผู้อื่นโดยใช้ยานพาหนะ อาชีพขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง และยังเป็นอาสาสมัครเมืองพัทยา พร้อมด้วยของกลาง กระเป๋าสะพายแบบผู้หญิง จำนวนกว่า 70 ใบ , เงินสด สกุลหยวน จำนวน 8,000 หยวน , รถจักรยานยนต์ที่ใช้ในการก่อเหตุ จำนวน 2 คัน โทรศัพท์มือถือ จำนวน 12 เครื่อง สร้อยคอแฟชั่น จำนวน 6 เส้น และวิทยุสื่อสาร จำนวน 1 เครื่อง โดยมีเจ้าทุกข์นักท่องเที่ยวชาวจีนกว่า 10 คนมายืนชี้ตัว
พล.ต.ต.นิติพงศ์ เนียมน้อย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า จากการประสานข้อมูลร่วมกันของ สภ.บางละมุง สภ.หนองปรือ และ สภ.เมืองพัทยา เฝ้าติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์นักท่องเที่ยว โดยเฉพาะชาวจีนและจะก่อเหตุเฉพาะช่วงเช้า โดยเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า คนร้ายน่าจะเป็นอาสาสมัครมูลนิธิใดมูลนิธิหนึ่งและมีวิทยุสื่อสารจึงทราบความเคลื่อนไหวของตำรวจ เจ้าหน้าที่จึงกระจายกำลังตามจุดเสี่ยงโดยใช้โทรศัพท์มือถือในการสื่อสารเท่านั้น จนผู้ต้องหาก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์นักท่องเที่ยวชาวจีนจากโรงแรมเดอะไนน์ ก่อนที่เจ้าทุกข์จะโทรแจ้ง 191 และบอกถึงลักษณะรูปพรรณคนร้าย โดยผู้ต้องหาใช้วิธีถอดหมวกกันน็อคเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่เจ้าหน้าที่สามารถจดจำรูปพรรณได้จึงสามารถติดตามรวบตัวได้บริเวณแยกเขาตาโล พัทยา เบื้องต้นผู้ต้องหารับสารภาพว่าทำมาแล้วกว่า 20 ครั้ง แต่จากของกลางที่มีกระเป๋าสะพายผู้หญิงกว่า 70 ใบ จึงเชื่อว่าผู้ต้องหาน่าจะลงมือมาแล้วไม่ต่ำกว่า 50 ครั้ง
ด้าน นายรุ่งโรจน์ สังกะสินสู่ ผู้ต้องหารับสารภาพว่าก่อเหตุมาแล้วประมาณ 2 ปี เพราะต้องการเงินมาใช้จ่าย โดยทรัพย์สินที่ได้มาจะเอาไปขายตามร้านรับซื้อของเก่า และรู้สึกเสียใจที่ส่งผลเสียกับภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวของเมืองพัทยา แต่ตอนก่อเหตุตนเองไม่ได้คิด มาคิดได้ก็ตอนถูกจับแล้ว จึงขออโหสิกรรมต่อชาวเมืองพัทยาและอาสาสมัครเมืองพัทยาทุกคน
|
ทีมข่าวชลบุรีออทนิวส์
|
|
|