จากปรากฏการณ์ธรรมชาติ แพลงตอนบูม จนส่งผลให้น้ำทะเลริมชายหาดบางแสนมีสีเขียวและทำให้สัตว์ทะเลตายจนส่งกลิ่นเหม็นไปทั่ว สัตว์ทะเล จำพวก ปลา และหอย ตายเกลื่อนชายหาดนั้น ตอนนี้น้ำเริ่มดีขึ้น มีกลิ่นเหม็นเล็กน้อย พ่อค้าแม่ค้าเตรียมของกิน ทั้งอาหารทะเลและเตียงที่นั่งชายหาดกางเต็ม ซึ่งแม่ค้าเผยดีใจที่น้ำกลับมาเหมือนเดิมแล้ว คงมีนักท่องเที่ยวเดินทางเที่ยวกันมากเช่นเคย ทางเทศบาลเมืองแสนสุข ได้นำพนักงานและรถเก็บขยะ มาเก็บซากปลาเน่าที่อยู่ริมชายหาด จนบรรยากาศคืนสู่สภาพเดิม
ดร.เสาวภา สวัสดิ์พีระ ผู้อำนวยการ สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล มหาวิทยาลัยบูรพา กล่าวว่า จะเกิดเป็นปกติเป็นประจำทุกปี หลังจากฝนตกชะล้าง สารอาหาร ตะกอนพืช แพลงตอนพืชเอง ก็จะเจริญเติบโตได้ หลังจากโดนแสงแดด ปรากฏการณ์นี่ จะเกิดปีละครั้ง แต่ปีนี้เกิด 3 ครั้ง คืนครั้งแรกเดือนกรกฎาคม ครั้งที่ 2 เดือนสิงหาคม และมาเกิดต้นเดือนกันยายน อีก ครั้งแรกนับว่ารุนแรงมาก ถ้าพูดถึงค่าวิชาการ ธาตุอาหารต่างๆที่น้ำฝนชะล้างมา มีสารอาหารปุ๋ยค่อนข้างเยอะ เพราะพอหลังจากฝนตกได้ไม่นาน แดดก็จัดและฝนก็ทิ้งช่วงอีก แดด อาหารมีพร้อม สิ่งมีชีวิตที่อยู่ในแพลงตอนพืช สาหร่าย เจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว น้ำทะเลก็เป็นสีเขียวอย่างที่เห็น พอเกิดขึ้นแล้วกลางวันไม่มีปัญหาเพราะออกซิเจนเยอะ สัตว์น้ำต้องการออกซิเจน ในเมื่อสิ่งมีชีวิตที่ทำให้น้ำทะเลสีเขียวเอง จึงเกิดการแย่งชิงออกซิเจนกัน ทำให้ออกซิเจนต่ำ สัตว์ทะเลที่อยู่หน้าดินจะได้รับผลกระทบค่อนข้างแรง ปลาหรือสัตว์น้ำจึงเกิดการน๊อคน้ำ ครั้งแรกเกิดขึ้นปลายังไม่แข้งแรงดี พอเกิดครั้งที่ 2 ที่ 3 ตามมา สัตว์น้ำที่เพลียอยู่ตัวไหนทนไม่ไหวก็ตายอย่างที่เห็น ซึ่งทุกอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่แน่ใจว่าจะมีครั้งที่ 4 – 5 หรือไม่ เพราะไม่ใช่เกิดจากสารอาหารที่ชะล้างมาอย่างเดียว มันมีสิ่งแวดล้อมต่างๆเข้ามาด้วยจึงเกิดน้ำทะเลเป็นสีเขียวอย่างนี้