เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 58 ร้อยตำรวจโทเศรษฐพงศ์ หลินภู พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองชลบุรี ได้รับแจ้งมีโจรงัดกุฎิภายในวัดนอก อำเภอเมืองชลบุรี และได้ขโมยเงินสดและพระเครื่องเป็นจำนวนมาก หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบพร้อมชุดสืบสวน ในที่เกิดเหตุเป็นห้องทำงานของพระครูโสภิต กิจจานุกูล อายุ 68 ปี เลขาฯ และผู้ช่วย พระครูอุดม ธรรมรส เจ้าอาวาสวัดนอก และเจ้าคณะอำเภอเมืองชลบุรี ตรวจสอบพบบานประตูมีรอยถูกงัด และภายในห้องมีร่องรอยการรื้อค้นกระจุยกระจาย และที่ประตูห้องประชาสัมพันธ์มีรอยโดนงัด ตู้กระจกถูกทุบแตก
สอบสวน พระครูโสภิต กิจจานุกูล ให้การว่าสงสัยโจรคนดังกล่าวจะเป็นชายหนุ่มอายุประมาณ 30 – 40 ปี รูปร่างสูงประมาณ 160 เซนติเมตร ผอม ผิวดำ แดง ไว้ผมรองทรง สวมกางเกงยีนส์สีน้ำเงิน 3 ส่วน ใส่เสื้อยืดคอกลมสีดำ ซึ่งเมื่อเย็นวานนี้ได้มาขออาศัยนอนโดยอ้างว่าจะรอญาติโอนเงินมาให้ พระครูโสภิต เห็นเลยสงสารก็เลยให้นอนค้างคืนที่ห้องสวดมนต์ข้างห้องทำงานของตน เพราะเมื่อปีที่แล้วจำได้ชายคนนี้ก็เคยมาขออาศัยนอนค้างคืนที่วัด แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งจากการตรวจสอบมีเงินสด จำนวน 400,000 บาทเศษ ที่เก็บไว้ในซองสีน้ำตาลซุกไว้ในเก๊ะลิ้นชักตู้หายไป รวมทั้งพระเครื่องในย่ามตนอีกจำนวนหนึ่ง จึงขอฝากบอกโจรที่เอาเงินไปขอให้เอามาคืน เพราะเป็นเงินที่วัดในจังหวัดชลบุรี 54 วัดบริจาคมาวัดละ 11,000 บาท เพื่อสร้างกุฎิถวายวัดในเขตจังหวัดชลบุรี 10 หลังๆ ละ 600.000 บาท ซึ่งตนจะเป็นผู้เก็บรวบรวมไว้เพื่อรอส่งมอบต่อให้ผู้เกี่ยวข้องการก่อสร้างกุฎิ และยังกล่าวต่ออีกว่ากรรมใดใครก่อ กรรมนั้นจะตามสนอง ให้โยมเอาเงินมาคืนวัดแล้วอาตมาจะไม่เอาความ
ร้อยตำรวจโทเศรษฐพงศ์ หลินภู พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองชลบุรี เผยว่าจากการสอบสวนทราบว่ากล้องวงจรปิดดูไม่ได้ เนื่องจากช่างที่เปิดดูภาพบอกว่าสงสัยมีการปิดกล้องก่อนหน้านี้ แล้วมาเปิดตอน 06.00 น.วันนี้ หรือไม่ก็ระบบเทคนิคขัดข้องหรือแฮ้ง ไม่มีการบันทึกในข้อมูล ซึ่งเป็นไปได้น้อยมาก หากกล้องระบบเทคนิคขัดข้องก็ไม่สามารถเปิดเองได้ นอกจากมีคนมาเปิด ซึ่งจะรวบรวมหลักฐานให้ชุดสืบสวนติดตามต่อไป.