ศูนย์วิทยุหน่วยกู้ภัยศีลธรรมสมาคมบ้านบึง อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี ได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือจากประชาชน ว่ามีงูเลื้อยไปพันล้อรถ หลังรับแจ้งจึงประสานไปยังนายไพศาล พรนิมิตทรัพย์ อายุ 40 ปี อาสากู้ภัยจุดคลองกิ่วผู้ชำนาญด้านการจับอรพิษ พร้อมทีมงานเตรียมอุปกรณ์บ่วงคล้อง และกระสอบเดินทางมาที่เกิดเหตุซึ่งเป็นช่วงบริเวณหน้าบ้านเลขที่ 69/2 บ้านหมื่อนจิตร ซอย 2 ม.5 ต.คลองกิ่ว อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี และได้พบรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้าแคมรี่สีบรอนซ์ ศษ 254 กทม. ที่ล้อรถขวาด้านหลัง พบงูขนาดใหญ่สีทอง พันกับล้อรถ ไม่ยอมออกมา กู้ภัยต้องใช้เหล็กตะขอเกี่ยวเอาตัวออกมา แต่งูก็ยังพันแน่น และยังทำท่าจะเลื้อยเข้าไปใต้ท้องรถ หากงูมุดไปหลบข้างใต้ท้องรถได้ จะทำให้เกิดความยากลำบากในการนำออกมา เนื่องจากเป็นงูจงอางมีพิษอันตราย ประกอบกับเป็นเวลากลางคืน และอยู่ใกล้บ้านเรือนประชาชน ต้องเร่งค่อยๆดึงงูออกมา จากล้อรถได้ จากนั้นจึงใช้บ่วงเชือกคล้องที่ส่วนหัว และใช้เหล็กกดหัวงูทับซ้ำ จึงสามารถจับไว้ได้
จากการตรวจสอบงูยังอยู่ในสภาะที่แข็งแรง ไม่ได้รับบาดเจ็บ ไม่มีบาดแผล จากนั้นจึงใส่กระสอบ นำตัวมาที่ศูนย์กู้ภัยศีลธรรมสมาคมบ้านบึง เพื่อชั่งน้ำหนัก วัดความยาวทำประวัติเอาไว้
น้ำหนัก 6.50 กิโลกรัม ยาว 3.67 เมตร สีเหลืองอมเขียวตลอดทั้งตัว
สอบถามนายไพศาล พรนมิตรทรัพย์ กู้ภัย เล่าว่า ทันทีที่ได้รับแจ้งจากชาวบ้านก็รีบเดินทางมาพร้อมทีมงาน นำเอาอุปกรณ์มาพร้อมสรรพ ยังไงก็ต้องจับตัวให้ได้เนื่องจากงูเข้ามาอยู่ในชุมชน ถ้าปล่อยเอาไว้เกรงว่าจะเกิดอันตรายต่อชาวบ้าน และสัตว์เลี้ยงชนิดอื่น โชคยังดีที่งูไม่ได้เลื้อยหนีไปไหน
นายไพศาล ยังเปิดเผยต่อไปอีกว่า บริเวณนี้ ตนเองเคยมาจับงูจงอางขนาดใหญ่มาแล้ว 3 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 ที่งูมีขนาดใหญ่และลำตัวสีทอง ตัวที่จับล่าสุดวันนี้มีขนาดเล็กกว่า 3 ตัวก่อนมีความยาว 4.30 เมตร น้ำหนัก 12 กิโลกรัมขึ้น ส่วนสาเหตุที่ชาวบ้านพบเห็นงูจงอางอยู่บ่อยครั้ง ตนเองตั้งสังเกตุว่า ช่วงนี้อากาศร้อน งูคงออกมาหาแหล่งน้ำ หาอาหาร ที่อยู่ของงูขาดแคลนอาหารเนื่องจากป่าเขาแห้งแล้ง จึงตระเวนหาอาหารตามที่อยู่อาศัยของบ้านคน สำหรับงูตัวนี้คงต้องเอาไปปล่อยในป่าที่ห่างไกลจากที่อยู่อาศัยของคน ตอนนี้ให้งูได้พักผ่อน รุ่งเช้าค่อยเอาไปปล่อยคืนสู่ธรรมชาติต่อไป