เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2567 พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.ฉัตรชัย สุเชษฐพงษ์ รอง ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี, พ.ต.อ.ชาตรี สุขศิริ รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี
พ.ต.อ.ปัญจนนท์ วิจิตรโท ผกก.สภ.แสนสุข ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมตัว นายประสิทธิ์หรือแบงค์ เพิ่มผล และนายจิรพลหรือเจมส์
พันภัยพาล ในข้อหามียาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า )อยู่ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย พร้อมด้วยของกลางเป็นยาบ้า รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,066,000 เม็ด และรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้ สีเทา ทะเบียน กบ 5767 ระยอง และรถยนต์กระบะบรรทุก ยี่ห้อโตโยต้า สีเทา ทะเบียน ถธ 6531 กรุงเทพมหานคร ที่ใช้เป็นพาหนะขนส่งยาบ้า
ด้านทาง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม สภ.แสนสุข กล่าวว่า ได้ทำการสืบสวนหาข่าวผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดเป็นเวลาประมาณ 1 เดือน ซึ่งต่อมาทราบว่านายฟริ้ง มีพฤติการณ์ลักลอบจำหน่ายยาเสพติดในเขตพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี จึงได้ติดตามพฤติกรรมของทราบว่านายฟริ้งจะสั่งการให้ลำเลียงยาเสพติดมาจากภาคเหนือโดยใช้รถยนต์กระบะ โดยมีรถยนต์เก๋งเป็นรถนำ และจะนำยาเสพติดมาแบ่งที่บริเวณ กลางป่ารอยติดต่อเขตอำเภอเมือง - อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี เพื่อเตรียมกระจายให้ลูกค้าในเขตพื้นที่จังหวัดชลบุรี
ต่อมาวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2567 ทราบว่าจะมีการลำเลียงยาเสพติดมาไปซุกซ่อนบริเวณกลางป่าไร่ร้างหญ้าสูง หมู่ 4 ตำบลหนองไผ่แก้ว อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี ห่างจากถนนหลวงหมายเลข 344 ประมาณ 500 เมตร จึงได้นำรายงานผู้บังคับบัญชาให้ทราบและสั่งการให้เดินทางไปตรวจสอบโดยทันที เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางไปบริเวณดังกล่าวพบรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้ สีเทา ทะเบียน กบ 5767 ระยอง และรถยนต์กระบะบรรทุก ยี่ห้อโตโยต้า สีเทา ทะเบียน ถธ 6531 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ โดยมี นายประสิทธิ์หรือแบงค์ เพิ่มผล (ผู้ถูกจับที่ ๑ )และนายจิรพลหรือเจมส์ พ้นภัยพาล (ผู้ถูกจับที่ ๒) กำลังถอดกระบะบรรทุกของรถยนต์อยู่ จึงได้เข้าแสดงตัวขอตรวจสอบ ขณะเข้าแสดงตัวบุคคลทั้งสองคนได้พยายามวิ่งหลบหนีเข้าป่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้วิ่งติดตามจนสามารถควบคุมตัวได้เมื่อตรวจสอบบริเวณรถยนต์กระบะพบห่อกระดาษสีน้ำเงินหุ้มด้วยพลาสติกใสอีกชั้นหนึ่ง จำนวน 44 ห่อเล็ก ห่อละ 6,000 เม็ด รวม 88,000 เม็ด อยู่ในถุงขยะสีดำวางไว้หลังกระบะรถยนต์ จึงได้ตรวจยึดมาเพื่อตรวจสอบ และจากการสอบถาม
ผู้ถูกจับรับว่ารถยนต์กระบะคันดังกล่าวได้ตัดแปลงช่องลับเพื่อซุกซ่อนยาข้าไว้และยังมียาบ้าซุกซ่อนอยู่ภายในรถยนต์
จึงได้เชิญตัวและนำรถยนต์มายัง สภ.แสนสุข และทำการตรวจสอบรถยนต์กระบะพบช่องลับ ซึ่งดัดแปลงเป็นพิเศษสำหรับซุกซ่อนยาข้าโดยเฉพาะ เมื่อตรวจสอบภายในพบว่ามียาบ้า จำนวน 59 ห่อใหญ่ ห่อละ 10,000 เม็ด
และจำนวน 56 ห่อเล็ก ห่อละ 2,000 เม็ด รวมจำนวน 702,000เม็ด รวมยาบ้าจำนวน 790,000 เม็ด จากนั้นได้ทำการสอบถามจนทราบว่ามีการนำยาบ้าไปซุกช่อนไว้ในซากบ้านร้างปากทางเข้าป่าไ
หมู่ ๔ ตำบลหนองไผ่แก้ว อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี จึงไปตรวจสอบพบยาบ้า จำนวน 134 ห่อเล็ก ห่อละ 2,000 เม็ด
เม็ด รวมตรวจยึดยาข้าได้เพิ่มเติมจำนวน 276,000 เม็ด รวมยาบ้าทั้งสิ้น จำนวน 1,066,000 เม็ด โดยนายประสิทธิ์ เพิ่มผล และนายจิรพล พ้นภัยพาล ผู้ต้องหาถูกจับให้การรับว่าได้รับการว่าจ้างจากนายฟริ้งให้ขับรถยนต์ลำเลียงยาเสพติดไปซุกซ่อน ครั้งละ 25,000 บาทและ 15,000บาท ตามลำดับ ซึ่งจะมีการลำเลียงยาเสพติดและนำมาแบ่งทุกวันอาทิตย์ วันอังคาร และวันศุกร์ของทุกสัปดาห์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 พร้อมของกลางดำเนินคดีตามกฎหมาย และจะได้ทำการขยายผลสีบสวนติดตามผู้ร่วมกระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้านทาง พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบช.ภ.2 เปิดเผยว่า เป็นนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่มุ่งเน้นการกวาดล้างยาเสพติด ทำให้กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ได้มีการสั่งการให้ทุกโรงพัก เฝ้าติดตามจับกุมยาเสพติดอย่างจริงจัง จนทาง สภ.แสนสุข ติดตามมาเป็นปี จนสามารถจับรายใหญ่ได้ ที่มีมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท ซึ่งก็อยากฝากไปถึงประชาชน ให้ดูแลบุตรหลานให้ดี อย่าปล่อยให้ตกเหยื่อของผู้ค้า ที่จะทำให้เยาวชนตกเป็นทาสของยาเสพติด ส่งผลให้เสียอนาคต และขอย้ำ ยาบ้าถึงแม้ว่าครอบครอง 5 เม็ด ก็มีความผิดทางกฎหมาย เพียงแต่สามารถขอรับการบำบัดรักษาได้