เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 14 มีนาคม 2566 ทางศูนย์วิทยุหน่วยกู้ภัยศีลธรรมสมาคมบ้านบึง ได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านว่ามีวัวติดหล่มบ่อโคลน ไม่สามารถขึ้นมาได้ และมีอาการอ่อนแรงจึงอยากให้มาช่วยนำขึ้น ซึ่งทางกู้ภัยรับแจ้งจึงรีบแจ้งไปยังอาสาที่อยู่ใกล้เคียงรีบเดินทางเข้าให้การช่วยเหลือทันทีพร้อมกับอุปกรณ์เพื่อให้การช่วยเหลือโดยเหตุเกิดที่ศูนย์การศึกษาพิเศษเขต 12 (โรงเรียนคนพิการ) เลขที่ 701 หมู่ 3 ตำบลหนองชาก อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี
พอเมื่อมาถึงศูนย์ช่วงบริเวณด้านข้างของโรงเรียน พบร่องน้ำที่มีโคลนหนาประมาณ 30 เซนติเมตร และได่พบวัวเพศเมีย ชื่อแม่โหนก อายุไม่ต่ำกว่า 16 ปี ที่อยู่ในสภาพอิดโรยไม่มีเรี่ยวแรงที่จะพยุงตัวลุกขึ้นมาได้ขาหลังและขาหน้าจมติดคาอยู่ในโคลน ทางชาวบ้านและกู้ภัยต้องหาน้ำมาให้วัวตัวนี้กินก่อนเพื่อให้มีมีแรง จากนั้นจึงใช้อุปกรณ์ที่เตรียมมา ตาข่ายเชือก สายเบลท์ โดยได้ใช้กำลังคนทั้งหมด 10 คน ช่วยกันพลิกตัววัวให้ตะแคงไปอีกด้านหนึ่ง จากนั้นใช้ตาข่ายสอดใต้ตัวของวัวแล้วพลิกกลับ และช่วยกันดึงวัวที่จม ขึ้นจากโคลนอย่างทุลักทุเล โดยใช้เวลานานเกือบ 1 ชั่วโมง ก็สามารถช่วยเหลือขึ้นมาได้ จากการตรวจสอบตามตัวของวัวไม่พบบาดแผลหรือบาดเจ็บเพียงแค่อ่อนแรงจากจมโคลนอยู่นานเท่านั้น ทางกู้ภัยจึงนำเกลือผสมน้ำใส่ขวดกรอกให้วัวดื่มกิน จนมันมีท่าทีที่สดชื่นขึ้น
จากการสอบถามนายอรรถพล ธรรมะเจริญ อายุ 29 ปี ซึ่งเป็นผู้ที่ดูแลวัวแม่โหนก เล่าว่า วัวแม่โหนกตัวนี้ เป็นวัวที่ได้มาจากคนใจบุญ ได้ไถ่ชีวิตและนำมามอบ ให้กับโรงเรียนแห่งนี้ เพื่อให้เด็กพิเศษได้ศึกษาเรียนรู้ โดยมีวัวอยู่ทั้งหมดสามตัวที่เลี้ยงร่วมกันมานานประมาณ 10 ปี และก่อนหน้านี้เพื่อนวัวของแม่โหนกก็ได้เสียไป จากนั้นแม่โหนกก็อยู่ในอาการซึม ไม่ค่อยกินข้างไม่มีเรี่ยวแรง คล้ายมันคิดถึงเพื่อนของมันที่ตายไป ประกอบกับอายุที่มากขึ้น หรืออาจจะป่วยเดินไม่ค่อยไหว โดยวันนี้ตนเองได้เดินออกมาที่จุดพบว่าแม่โหนก จมอยู่ในโคลน พยายามที่จะพยุงตัวขึ้นจนขาหน้าทั้งสองข้างจมอยู่ในโคลน จากนั้นจึงเรียกคนมาช่วยใช้เชือกดึง ใช้เหล็กสอดใต้ตัวของวัวกำลังคนยกทั้งสองด้านแต่ก็ปรากฏว่าไม่สามารถช่วยเหลือได้ จึงโทรศัพท์แจ้งขอความช่วยเหลือจากกู้ภัยกระทั่ง กู้ภัยมาถึงพร้อมกับอุปกรณ์เอาตาข่ายและสายเบลท์ มาช่วยกันดึงลากขึ้นมาได้อย่างปลอดภัย