พล.ต.ต.นันทวุฒิ สุวรรณละเอง รอง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 รักษาการแทนผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี พ.ต.อ.ชนะไชย เกษมวงศ์ ผู้กำกับการ สภ.เสม็ด ได้ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมคนร้ายจี้ชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อ 7-11 ถนนข้าวหลาม หมู่ 4 ตำบลห้วยกะปิ อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี จำนวน 2 ราย คือ นายนราศักดิ์หรืออาร์ม แสงภารา อายุ 22 ปี นายสกลกฤดหรือใจแอ็น อุปพงษ์ อายุ 20 ปี พร้อมของกลางเป็นเงินสด จำนวน 7,400 บาท จากจำนวน 17000 บาท รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ สีขาว หมายเลขทะเบียน 3 กณ 7095 ชลบุรี และเสื้อผ้าที่สวมใส่ ที่ได้ลงมือก่อเหตุ ในวันที่ 8 มกราคม 2566 เวลาประมาณ 03.30 น. โดยกล้องวงจรปิดจับภาพได้มีคนร้ายเป็นชาย 2 คน แต่งกายมิดชิด ปิดบังใบหน้าโดยคนใช้มีด ข่มขู่พนักงาน จากนั้นได้รื้อค้นเอาทรัพย์ ได้โทรศัพท์ไป 4 เครื่อง เป็นธนบัตรและเงินเหรียญของทางร้าน รวม 17,000 บาท หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ภูธรจังหวัดชถบุรี ร่วมกับ ชุดสืบสวน สภ.เสม็ด ได้ทำการสืบสวนติดตามคนร้ายตามเส้นทางที่หลบหนีหลังเกิดเหตุ ทราบว่าคนร้ายเข้าไปในซอย ห้วยกะปี 15 เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการสืบสวน ในพื้นที่ กับผู้ที่ที่อาศัยในชุมชน ตลอดจนผู้นำชุมชน ของการอาศัยของบุคคลเป็นที่ จนทราบว่าพักภายในคอนโด เดอะลูฟ ม.4 ตำบลห้วยกะปิ อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี จึงเข้ารวบตัวได้พร้อมของกลางดังกล่าว พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่า "ร่วมกันชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยมีอาวุธ,โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม หรือร่วมกันรับของโจร โดยหลังจากแถลงข่าว ได้นำตัวคนร้ายไปทำแผนรับสารภาพที่ร้านสะดวกซื้อที่ก่อเหตุ ก่อนนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เสม็ด ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ด้านทาง พล.ต.ต.นันทวุฒิ สุวรรณละเอง รอง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 รักษาการแทนผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า ก่อนหน้าที่จะทำการก่อเหตุ นายอาร์ม ได้มีการชักชวนนายใจแอ้นท์ ผ่านไลน์ โดยมีข้อความว่า เองอยากรวยไปปล้นกันมั้ย พี่อยากรวบมีเงินเป็นร้าน และได้คุยเลือกสถานที่ ที่ไม่ค่อยมีคน และมีแสงสว่งน้อย ส่วนสาเหตุที่ทำการในครั้งนี้ เนื่องจาก ชีวิตในครอบครัวล้มเหลว ไม่มีคนในครอบครัวเข้าใจ ประกอบกับ ไม่มีงานประจำทำ เพื่อให้เกิดรายได้ขึ้นในการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
ขณะที่นายใจแอ้นท์ หนึ่งในผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพที่อ้างว่า มีปัญหาในครอบครัว พ่อแม่แยกทางกัน ทำให้ตัวเองมีปัญหา อีกทั้งเงินไม่พอใช้ จึงลงมือก่อเหตุเพื่อหาเงินไปใช้หนี้ และนำเงินจ่ายค่าเช่าห้อง อยากขอโทษกับผู้เสียหาย ไม่ได้ตั้งใจ เกิดจากอารมณ์ชั่ววูบ หลังจากพ้นโทษออกมาจะกลับตัวเป็นคนดี ไม่ทำตัวแบบนี้อีก