วัยรุ่นเดือด เข้ารุมเตะต่อย 4 ต่อ 1 มีคลิปลงโซเชี่ยล สาเหตุเกิดจากขี่รถจักรยานยนต์ผ่านแล้วเบิ้ลเครื่องใส่ เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องให้ทั้งสองจับมือปรับความเข้าใจ โดยมีผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายเป็นพยาน
|
จากกรณีที่มีคลิป เด็กวัยรุ่นชาย อายุ14 ปี ถูกกลุ่มวัยรุ่นอีกกลุ่มที่มีกันอยู่ 4 คน รุุมชกต่อย เหตุเกิดบริเวณ สวนสุขภาพ เทศบาลตำบลหัวกุญแจ ตำบลคลองกิ่ว อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 17.00น. ของวันที่ 24 มกราคม ที่ผ่านมา สาเหตุเกิดจากวัยรุ่น 4 คน ไม่พอใจ ที่เด็กชายบิีก ขี่รถจักรยานยนต์ ผ่านแล้วเบิ้ลเครื่องใส่ ดังภาพที่ปรากฎในคลิปที่ได้แชร์ออกไป มีผู้คนได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้เดินทางมาที่ สภ.คลองกิ่ว สอบถาม พ.ต.ต.ศักดา ภิญโญภาพ สารวัตร (สอบสวน) สภ.คลองกิ่ว ได้เปิดเผยข้อมูลว่า หลังจากเกิดเหตุทั้งสองฝ่ายได้เดินทางมาทำการพูดคุยตกลงเรื่องค่าเสียหายกันตั้งแต่เมื่อวานแล้ว แต่ยังตกลงกันไม่ได้ จึงประสงค์ลงบันทึกประจำวันเพื่อดำเนินคดี จริงๆแล้วเหตุการณ์เพิ่งจะเกิด การดำเนินการของเจ้าหน้าตำรวจไม่ได้ล่าช้า แต่ถ้าผู้เสียหายประสงค์ที่จะดำเนินคดีก็ให้แพทย์ได้ตรวจร่างกายเพื่อนำเอาผลมาประกอบสำนวนเพื่อดำเนินคดี แต่ในวันนี้ได้มีการนัดแนะพูดคุยกันตนก็รอเพื่อให้ทั้งสองฝ่ายคุยกันให้ได้ข้อยุติ
ด้านนายธีระ ฤทธิ์ภักดี อายุ 61 ปี ผู้ปกครองของเด็กชายบิ๊ก อายุ 14 ปี ผู้เสียหาย เล่าว่าตนเองพึ่งจะทราบและเห็นคลิปเหตุการณ์เมื่อช่วงค่ำวันที่เกิดเหตุ ก็ยอมรับว่าเกินไป คนจำนวนมากรุมทำร้ายคนคนเดียวถือว่าเป็นเรื่องที่น่าอับอาย จะใส่เดี่ยวไม่ว่าอะไร และไม่ควรจะมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น ที่สำคัญคู่กรณีก็เป็นคนระแวกเดียวกัน หลังจากนี้ก็อยากให้มีการพูดคุยกัน เพื่อปรับความเข้าใจกัน ตนเองต้องทำมาหากิน อยากพูดคุยและทำความเข้าใจเพื่อจบเรื่องราวต่างๆ
ขณะที่ในส่วนของเด็กชายบิ๊ก (ผู้เสียหาย) เล่าว่า ก่อนหน้านี่เคยถูกกลุ่มกรณีชกต่อยมาแล้ว สาเหตุมาจากที่ตนเองได้เบิ้ลเครื่องรถจักรยานยนต์ใส่กลุ่มคู่กรณี จนถูกชก คิดว่าเรื่องจะจบ แต่ก็มาเกิดเหตุการณ์แบบนี้ซ้ำ เพราะเพื่อนๆฝ่ายคู่กรณีมารับเพื่อไปดูแข่งรถ เมื่อมาถึงก็ถูกรุมชกต่อย ทำให้ได้รับบาดเจ็บที่ศรีษะรู้สึกปวด ฟันล่างหน้าบิ่น และโทรศัพท์หล่นลงพื้นพังชาร์จแบตไม่ได้ จึงเรียกค่าทำขวัญ กับค่าโทรศัพท์รวม 8000 บาท
ส่วนนางสาวตาล อายุ 41 ปี ผู้ปกครองของเด็กที่รุมทำร้าย เล่าว่าตนเองก็ต้องขอโทษคู่กรณีผู้เสียหายสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น และยอมรับผิด หลังจากนี้จะดูแลสั่งสอนลูกของตนเองให้ดีกว่าเดิม ไม่ให้เกิดเรื่องขึ้นอีกและยินดีชดใช้ค่าเสียหายตามที่อีกฝ่ายเรียกร้อง ส่วนเด็กทั้งสองฝ่ายก็จับมือปรับความเข้าใจกัน และสัญญาจะไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น โดยได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ชดใช้ค่าเสียหายแก่คู่กรณี โดยมีทั้งตำรวจ ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายเป็นพยาน ให้เด็กที่ทะเลาะกันจับมือปรับความเข้าใจ ก่อนที่จะแยกย้ายกันไป
|
ทีมข่าวสายเจาะ อ.บ้านบึง
|
|
|