เมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 17 มกราคม 2565 ร.ต.ท.ธนวัฒน์ ถนอมวงษ์ รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.บ้านบึง ได้รับแจ้งจากหน่วยกู้ภัยศีลธรรมสมาคมบ้านบึง ว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้รถบรรทุกพ่วง 22 ล้อ บนถนนสาย 331 เส้นคู่ขนาน ห่างจากสี่แยกเนินโมกประมาณ 200 เมตรฝั่งขาเข้ากบินทร์บุรี หลังรับแจ้งจึงรีบรุดเดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมกับรถดับเพลิงจาก องค์การบริหารส่วนตำบลหนองอิรุณ และเทศบาลตำบลหนองไผ่แก้ว จำนวน 3คัน
พอเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุพบเพลิงกำลัง ลุกไหม้บริเวณส่วนหัวและมีแสงเพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรง และมีเสียงดังคล้ายระเบิด ทางกู้ภัยและเจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องเร่งเข้าฉีดน้ำด้วยความระมัดระวังอย่างเต็มที่ จากนั้นจึงค่อยๆ ระดมฉีดน้ำ เพื่อสกัดกั้นการลุกไหม้ไปยังส่วนถังก๊าซที่อยู่ติดกับส่วนเก๋งของรถ กระทั่งผ่านไปประมาณ 30 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ตรวจสอบรถได้รับความเสียหายที่ส่วนหัวเก๋งของตัวรถจนหมด และตรวจสอบเป็นรถบรรทุกไม้ของบริษัทเอกชนทะเบียนส่วนหัว 72-3755 ชลบุรีส่วนท้าย 73-8411 ชลบุรี
จากการสอบถามนายเผด็จการ เหลาพรหม อายุ 49 ปี คนขับที่ยังอยู่ในอาการตกใจ เล่าว่าตนเองได้ขับรถมาจากท่าเรือแหลมฉบัง และได้แวะเติมแก๊ส ซึ่งอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุเพียง 800 เมตร หลังจากนั้น ก็ได้ขับมาจอดรถเพื่อนอนพัก ขณะที่กำลังนอนได้กลิ่นเหม็นเหมือนอะไรไหม้ หลังจากนั้นก็เห็นกลุ่มควัน พวยพุ่งออกมาบริเวณหน้าปัดของรถ จึงรีบเปิดประตูออกมาปิดวาล์วแก๊สก่อนที่จะขึ้นไปเก็บทรัพย์สินมีค่าที่อยู่ในที่นั่งคนขับและได้วิ่งหนีเอาตัวรอดออกมา พอลงมาจากรถได้ยังไม่ทันถึง 5 นาที ได้ยินเสียงระเบิด ดังขึ้นสองครั้ง จึงรีบวิ่งขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านในละแวกดังกล่าวเพื่อให้โทรแจ้งดับเพลิงและกู้ภัยมาช่วย แต่ก็ไม่ทันไฟได้ไหหม้ไปจนหมดแล้ว ตนเองยอมรับว่าตั้งแต่ขับรถมากว่า 20 ปี เพิ่งจะเคยเจอเหตุการณ์เช่นนี้เป็นครั้งแรก
ทางด้านนายมนตรี คาราวานนท์ อายุ 52 ปี หัวหน้าชุดดับเพลิงของ อบต. หนองอิรุณ เล่าว่า ทันทีที่ได้รับแจ้งว่ามีเหตุเพลิงไหม้รถยนต์ ก็รีบเดินทางเข้าที่เกิดเหตุ เมื่อมาถึง ก็พบว่าเกิดเพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรง ประกอบกับรถคันดังกล่าวมีถังก๊าซอยู่ใกล้กับหัวเก๋ง เกรงว่าจะไม่ปลอดภัย จึงได้แต่ฉีดน้ำเข้าดับเพลิงในระยะไกล เพื่อป้องกันเหตุไม่คาดคิด โชคดีพื้นที่เกิดเหตุห่างไกลจากชุมชนและมีพื้นที่มากพอในการปฏิบัติหน้าที่จึงไม่กังวลเรื่องเพลิงลุกลาม ส่วนสาเหตุคาดอาจจะเกิดจากระบบไฟฟ้ายในตัวรถ รัดวงจร แต่ก็ต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง