เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 25 พฤศจิกายน 2564 นายรุ่งเรืองสิน วงศ์ทรายทอง นายกเทศมนตรีตำบลบางทราย พร้อมด้วย นายสุระชัย ภาสดา ผู้อำนวยการส่วนส่งเสริมและประสานงานเครือข่ายทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ที่ 2 ชลบุรี ได้เดินทางมาที่บริเวณสะพานปลาบางทราย หมู่ที่ 2 ตำบลบางทราย อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี หลังรับแจ้งว่ามีชาวประมงพบปลาโลมาตายกลางทะเล ห่างจากสะพาน 100 เมตร และได้ใช้เรือลากเข้ามา นำซากขึ้นมาไว้บนสะพาน โดยที่พบว่า เป็นปลาโลมาสายพันธุ์ปากขวด มีความยาวประมาณ 2 เมตร 10 เซนติเมตร น้ำหนักกว่า 100 กิโลกรัม คาดว่าตายมาแล้วประมาณ 5 ชั่วโมง ตรวจสอบในเบื้องต้นไม่พบบาดแผล มีเพียงบาดแผลถลอก ที่เกิดจากชาวประมงลากขึ้นแล้วไปโดนกับขอบสะพาน
จากการสอบถามนายชัยพร เขมะศิริ อายุ 37 ปี ชาวประมง ซึ่งเป็นผู้พบเห็น เล่าว่า ขณะกำลังนั่งอยู่บนสะพาน ได้เห็นซากปลาโลมาปากขวดลอยอยู่ จึงเอาเรือลงไปแล้วลากซากปลาโลมา เข้ามา จากนั้นก็ได้ช่วยกันยกขึ้นไว้บนสะพาน ก่อนจะแจ้งหน้าที่มาตรวจสอบ ส่วนสาเหตุอาจเป็นเพราะปลาโลมาหลงฝูงเข้ามากินปลาตามโป๊ะ แล้วติดแห้งในช่วงน้ำลงแล้วติดโคลน
ด้านนายสุระชัย ภาสดา ผู้อำนวยการส่วนส่งเสริมและประสานงานเครือข่ายทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เผยว่า เป็นพันธุ์ปลาโลมาหายาก ไม่พบในน่านน้ำบางปะกง ส่วนใหญ่จะอยู่ในทะเลน้ำลึก หรือไม่ จะอยู่บริเวณเกาะน้ำใน โดยที่จะนำซากส่งไปผ่าหาสาเหตุที่ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนบนฝั่งตะวันออก จังหวัดฉะเชิงเทรา
ขณะที่นายรุ่งเรืองสิน วงศ์ทรายทอง นายกเทศมนตรีตำบลบางทราย กล่าวว่า เกือบ 20 ปี แล้ว ไม่เคยพบปลาโลมา มาตายในทะเลเขตพื้นที่บางทราย เนื่องจากส่วนใหญ่ปลาโลมา มักจะอยู่ในทะเลแถวตำบลท่าข้าม อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา ที่ดูแล้วตัวโตสมบูรณ์ ซึ่งเห็นแล้วรู้สึกเสีย เพราะเป็นปลาโลมาพันธุ์หายาก ส่วนใหญ่ที่พบกันจะเป็นโลมาอิรวดี ซึ่งน่าจะกินอะไรเข้าไปแล้วติดคอ หายใจไม่ออก ทำให้ตายดังกล่าว