เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 8 พฤศจิกายน 2564 นายวินัย พ้นภัยพาล นายกเทศมนตรีเมืองอ่างศิลา ได้พานางกุหลาบ สมัยกลาง อายุ 77 ปี เดินทางเข้าสำนักงานฝ่ายทะเบียนราษฎร์อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี เพื่อเข้าทำบัตรประชาชน หลังที่ตั้งแต่เกิดมายังไม่มีบัตรประชาชนเป็นของตนเอง และมาอยู่ในตำบลเสม็ด อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี กว่า 30 ปี แล้ว แต่เนื่องจากอยู่คนเดียว ไม่มีใครยืนยันได้ จึงไม่สามารถทำบัตรประชาชนได้ แต่ในวันนี้ที่สามารถทำบัตรประชาชนได้ จากที่ทางผู้นำชุมชน ผู้นำท้องที่ ได้ร่วมมือกัน จากที่สงสารคุณยาย ไม่ได้รับสิทธิใดๆ จึงมีการร่วมกันรวมเงินส่งไปสถาบันนิติเวช ทำการตรวจดีเอนเอ และมีใบยืนยันมาว่าเป็นคนไทย และนำมาทำบัตรประชาชนดังกล่าว ซึ่งเข้าอาศัยเป็นลูกบ้านของบ้านเลขที่ 23 / 4 หมู่ที่ 4 ตำบลเสม็ด หลังจากได้บัตรประชาชนมา ทำให้คุณยายน้ำตาไหลแสดงถึงดีใจ และมีนายสุคนธ์ สุวรรณศักดิ์สิน นายอำเภอเมืองชลบุรี เดินทางเข้ามอบบัตรประชาชนให้คุณยายด้วยตัวเอง โดยที่นางกุหลาบ ได้แสดงถึงความเป็นคนไทย ร้องเพลงชาติให้ฟังจนจบเพลงอีกด้วย
ขณะที่นายวินัย พ้นภัยพาล นายกเทศมนตรีเมืองอ่างศิลา เผยว่า นางกุหลาบ พักอาศัย อยู่ตามลำพัง ในห้องเช่า ไม่สามารถทำงานได้ ไม่มีเงินใช้ มีชีวิตการเป็นจากการกินข้าววัด และมีเพื่อนบ้านคอยดูแลให้เงินบ้าง แต่หลังจากนี้ ที่มีบัตรประชาชนแล้ว ก็จะนำเข้าทำเรื่องรับเบี้ยยังชีพ และจะมีสิทธิในการรักษาฟรี หากเจ็บป่วย
ด้านทางนางสาวนฤมล แต้สกุล ปลัดอำเภอเมืองชลบุรี เผยว่า มีการมายืนคำร้องขอทำบัตรประชาชน ตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม 2564 แต่จากที่สถานการณ์โควิด 19 ระบาดหนัก ทำให้ไม่สามารถที่จะไปตรวจดีเอนเอได้ และหลังจากทราบว่า ทางคุณยายได้ไปตรวจดีเอนเอแล้ว ก็ได้ให้มาทำประวัติ ทำบัตรประชาชนในทันที ซึ่งถือเป็นรายแรก ที่มีการร้องทำบัตรประชาชน ตอนอายุ 77 ปี
จากการสอบถามนางกุหลาบ เล่าว่า รู้สึกดีใจ ที่รู้ว่าจะมีบัตรประชาชน ส่วนสาเหตุที่ก่อนหน้านั้น ไม่มีบัตรประชาชน จากที่ต้องตระเวนไปทำงานกับพ่อแม่ ไปที่จังหวัดต่างๆ ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง จนมาอยู่จังหวัดชลบุรี ซึ่งก็พยายามที่จะทำเรื่องบัตรประชาชน แต่ติดตรงไม่มีญาติมายืนยัน ตลอดเวลา ก็มีคนดูถูกว่าเป็นต่างด้าวบ้าง เขมรบ้าง แต่ตอนนี้จะมีใครมาดูถูกไม่ได้แล้ว เพราะมีหลักฐานเป็นบัตรประชาชน ว่าเป็นคนไทยเต็มร้อย