เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 พ.ต.อ.กรวัฒน์ หันประดิษฐ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี พ.ต.อ.ศานติ กรเกษม ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวนภูธรจังหวัดชลบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.ภาวร นาใจเย็น ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรพนัสนิคม และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน เข้าบุกตรวจค้นโกดัง พื้นที่ หมู่ที่ 9 ตำบลหัวถนน อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี หลังจากได้มีการรับรายงานว่า มีรถยนต์ซึ่งมีการติด GPS ถูกนำมาขายในพื้นที่อำเภอพนัสนิคม โดยที่เมื่อเปิดโกดังไป ได้พบรถยนต์ จำนวน 16 คัน รถจักรยานยนต์ จำนวน 7 คัน ที่อยู่ในสภาพมีฝุ่นเกาะเป็นจำนวนมาก ที่จากการบอกเล่าของชาวบ้าน คาดว่าเคยเห็นนำมาจอดตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2563 ที่ทางเจ้าของเดิมใช้เก็บของเก่าย้ายออกไป ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้มีการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยไว้ที่กองกับการสืบสวนสอบสวน เพื่อหาข้อเท็จจริงของและทำการอายัดรถทุกคันไว้ตรวจสอบหาที่มาของรถทุกคัน
ขณะเดียวกันทางด้าน พ.ต.อ.ทวี กุดแถลง ผู้กำกับการสภานีตำรวจภูธรบ้านบึง และชุดสืบสวนได้มีการเข้าตรวจค้นโกดัง บริเวณใกล้เคียงกับหมู่บ้านบังเอิญ จำนวน 3 โกดัง ที่ทำการรับจำนำและนำรถมาเก็บไว้ตรวจสอบพบรถยนต์ทั้งใหม่และเก่า เป็นรถยนต์ จำนวน 24 คัน และรถจักรยานยนต์ จำนวน 8 คัน สอบสวนนางสาวชุลีกร สาโชติ อายุ 46 ปี ซึ่งรับเป็นเจ้าของ ว่าเป็นผู้รับจำนำไว้ ด้วยดอกเบี้ยร้อยละ 10 ต่อเดือน พร้อมนำหลักฐานรถของคันต่างๆมาแสดงครบทุกคัน
ด้านทาง พ.ต.อ.กรวัฒน์ หันประดิษฐ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า จากการตรวจพบว่ามีเอกสารรถแสดงชื่อการมีเจ้าของ แต่ก็ต้องมีการดูในเรื่องว่ามีการโจรกรรมมาจำนำหรือไม่ อีกทั้งยังดูในเรื่องของการรับจำนำที่ พรบ.มีการกำหนดไว้ไม่เกินร้อยละ 7 ต่อปี และการรับจัดไฟแนนท์ โดยมิชอบ อย่างไรก็ตาม สำหรับรถยนต์ รถจักรยานยนต์ จะต้องให้ สภ.ในพื้นที่ ยึดไปตรวจสอบ
จากการสอบถามนางสาวชุลีกร เผยว่า ได้มีการรับจำนำไว้ ขึ้นอยู่กับสภาพรถ และอยู่ไม่นานก็จะมีการมาไถ่คืนไป และจะมีคันใหม่เข้ามาจำนำแทน จึงทำให้ไม่ได้ใช้เงินเป็นจำนวนมาก ในการรับจำนำ